นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ ร.พ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี กล่าวว่า จากที่มีกระแสข่าวว่า การได้รับแสงสีฟ้าหรือบลูไลต์ จากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ จะทำให้เกิด ผลกระทบต่อดวงตา ทำให้จอประสาทตาเสื่อม ผู้ผลิตเลนส์แว่นตา ผลิตเลนส์แว่นตาที่ป้องกันรังสีบลูไลต์ออกมาขายว่า แว่นตาป้องกันรังสีนั้น ทางการแพทย์เรียกว่าเลนส์บลูบล็อก ซึ่งโฆษณาว่านอกจากป้องกัน UV 400 แล้วยังป้องกันแสงบลูไลต์ด้วย เลนส์ดังกล่าว มีราคาสูงกว่าเลนส์ทั่วไป ร้อยละ 30 ซึ่งไม่มีผลการวิจัยถึง ผลประโยชน์ เพราะต่อให้ใส่เลนส์ตัดแสง แต่หากใช้สายตากับอุปกรณ์เหล่านี้มากๆ ก็ทำให้เกิดผลกระทบต่อสายตาได้เช่นเดียว กับการไม่ใส่แว่นตัดแสง

          "ยืนยันว่าแสงบลูไลต์ไม่ได้ส่งผลให้เป็นมะเร็งทางสายตาแน่นอน แต่อาจมีผลหากใช้มากๆ คือทำให้เซลล์

          ประสาทตาเสื่อมได้ ถึงแม้ใส่เลนส์บลูบล็อก แต่ใช้ สายตามาก ก็จะทำให้เกิดตาเมื่อยล้า ปวดหัว ต้นคอและไหล่ได้ หากจะใช้สายตานานๆ ควรใช้วิธีใช้ 25 นาที พักสายตา 15 นาที หรือใช้ 30 นาทีพักสายตา 10 นาที" นพ.ฐาปนวงศ์กล่าว

          นพ.ฐาปนวงศ์กล่าวต่อว่า บลูไลต์ถือเป็นแสงที่มีคลื่นความถี่มากกว่า 400 นาโนเมตร ซึ่งแสงจะทะลุเข้าไปในตา ที่มีแก้วตาดำเยื่อบุตาขาว และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดต้อกระจก แต่ UV เกิน 400 นาโนเมตร จะเข้าไปทำลายที่เซลล์เรตินา ของเซลล์หรือเซลล์ประสาทตา ที่จุดรับภาพโดยตรง โดยบลูไลต์มักจะพบในจอดิจิตอลแอลอีดี ซึ่งมาจากแสงไฟแอลอีดี เช่น จอโทรทัศน์ เป็นต้น เมื่อใช้อุปกรณ์เหล่านี้นานๆ ก็จะทำให้แสงเข้าสู่เรตินาเซลล์มาก อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้ว่าเป็นมะเร็ง แต่ความจริง UVเอ และ UVบี จะทำให้เกิดมะเร็งที่ผิวหนัง ไม่ใช่ตา