Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 16/09/2557 ]
กรดไหลย้อน-โรคกระเพาะปล่อยไว้ทำลายชีวิต
โรคในระบบทางเดินอาหาร เป็นกลุ่มโรคที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน แม้เป็นอาการเจ็บป่วยที่ไม่รุนแรง แต่หากปล่อยทิ้งไว้อาจก่อผลร้ายทำลายร่างกายได้อย่างฉับพลัน และอาจนำไปสู่อันตรายถึงชีวิตได้
          ผศ.นพ.ยุทธนา ศตวรรษธำรง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินอาหารและตับ ร.พ. บำรุงราษฎร์ ผู้ก่อตั้ง สมาคมแพทย์ส่องกล้องทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย อธิบายว่า วิถีชีวิตคนในปัจจุบัน ที่ไร้วินัยในการกิน รวมถึงความเครียด ทำให้มีแนวโน้มของผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน
          คนส่วนใหญ่มักมองข้ามอาหารมื้อเช้า และกินมื้อใหญ่ในตอนเย็น ขณะที่ร่างกายมนุษย์จะเซ็ตระบบการกินอาหาร แต่ละมื้อตรงตามเวลา ตั้งแต่แปดโมงเช้า เที่ยงวันถึงบ่ายสองโมง และช่วงหกโมงถึงหนึ่งทุ่ม ในช่วงเวลาเหล่านั้น จะมีกรดในกระเพาะที่หลั่งออกมาย่อยอาหาร เมื่อถึงเวลาไม่มีอาหาร กรดก็จะย่อยตัวกระเพาะอาหารเอง เป็นสาเหตุของโรคกระเพาะ หากเครียดมาก กรดก็จะหลั่งออกมามาก
          ส่วนกรดไหลย้อนนั้น คนส่วนใหญ่หลังกินอาหารเสร็จแล้วจะนั่งๆ นอนๆ อาหารจึงไม่ย่อย หรือกินมื้อใหญ่มื้อเดียวในตอนเย็น กินอาหารมันมากๆ อาหารที่ค้างอยู่ในกระเพาะจะอืด กรดในกระเพาะอาหารจึงไหลย้อนขึ้นมาทางหลอดอาหาร จะรู้สึกจุก ปวดแสบปวดร้อนบริเวณหน้าอกไปถึงลิ้นปี่ เปรี้ยวหรือ ขมในคอ
          การรักษาเบื้องต้น ให้ยาลดกรดในกระเพาะและเปลี่ยนพฤติกรรมกินอาหารให้เป็นเวลา ให้เดินสักพักหลังรับประทานอาหาร หากทานยาแล้วอาการไม่ทุเลา ก็ต้องตรวจระบบทางเดินอาหารอย่างละเอียด
          โรคกระเพาะและกรดไหลย้อนหากปล่อยให้เรื้อรัง จะเกิดแผลอักเสบในกระเพาะหรือในหลอด อาหาร และอาจเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะคนไข้ที่มีอาการกรดไหลย้อนเรื้อรัง อายุเกิน 40 ปี
          ส่วนคนที่มีปัจจัยเป็นมะเร็ง ต้องเข้ารับการส่องกล้อง Endoscopy ขนาด 9 ม.ม. ผ่านทางปากเข้าไปในหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น สามารถบันทึกภาพ เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อมาตรวจ และตัดชิ้นเนื้อตรวจหาแบคทีเรีย Helicobacter Pylori
          หรือดูว่ามีกรดไหลย้อนมากน้อยเท่าใด และหากผู้ป่วยไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการกินใหม่ อาการของโรคก็อาจจะกลับมาอีก
          ส่วนนิ่วในถุงน้ำดี พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ที่มีอายุ 30-40 ปีขึ้นไป เพราะฮอร์โมนเพศหญิง เป็นสาเหตุหนึ่งของโรค โดยตับที่สร้างน้ำดีแล้วส่งมาตามท่อน้ำดี และบีบตัวไล่น้ำดี ส่งไปที่ลำไส้เล็ก เมื่อถุงน้ำดีบีบตัวได้ไม่ปกติ น้ำดีก็จะตกตะกอนเป็นนิ่ว คนไข้ก็จะปวดท้องที่ใต้ชายโครงขวา ต้องผ่าตัดภายใน 24 ช.ม.
          ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการกินยาฮอร์โมนทุกชนิด ควบคุมเบาหวาน ถ้าเป็นนิ่วควรพบแพทย์ เพื่อตรวจรักษาที่เหมาะสม
 pageview  1205154    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved