Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 12/11/2556 ]
แนะวิธีป้องกันหวัดช่วงปลายฝน-ต้นหนาว

 

 ช่วงปลายฝนต้นหนาว โดยเฉลี่ยเด็กจะเป็นไข้หวัด 6-12 ครั้งต่อปี ผู้ใหญ่จะเป็น 2-4 ครั้ง ผู้หญิงเป็นบ่อยกว่าผู้ชายเนื่องจากใกล้ชิดกับเด็ก คนสูงอายุอาจจะเป็นปีละครั้ง
          เมื่อเราอยู่ในบริเวณที่เสี่ยงต่อการเป็นหวัด การใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปาก และจมูกจะช่วยป้องกัน และลดการแบ่งตัวของเชื้อโรคที่อยู่บริเวณโพรงจมูกและลำคอได้ แต่ถ้าเริ่มรู้สึกตัวว่าจะเป็นหวัดก็ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นหนักได้ด้วยการนอน ออกกำลังกายเบาๆ การกินน้ำอุ่น เป็นต้น จะช่วยให้เม็ดเลือดขาวทำ งานกำจัดเชื้อโรคได้ดีขึ้น และลดปริมาณของเชื้อโรคที่อยู่บริเวณทางเดินหายใจ
          นพ.อิทธิชัย วัชรีคุปต์ แพทย์สาขาอายุรกรรมทั่วไป ร.พ.กล้วยน้ำไท 1 อธิบายว่า หวัดเป็นโรคที่หายได้เองภายในไม่กี่วัน ด้วยการดูแลตัวเองอย่างง่ายๆ เราจะรู้สึกตัวว่าเป็นหวัดเมื่อเริ่มรู้สึกล้าๆ ตัวรุมๆ เจ็บคอ ไอ เริ่มมีน้ำมูกใสๆ หรือปวดศีรษะร่วมด้วย โรคจะ
          เริ่มแสดงอาการหลังจากสัมผัสกับเชื้อโรคภายใน 16 ชั่วโมง และจะมีอาการหนักที่สุดภายใน 2-4 วัน หลังเริ่มแสดงอาการ ซึ่งปกติจะหายได้เองภายใน 7-10 วัน
          ช่วงเปลี่ยนฤดู เรามักจะเป็นหวัดได้ง่าย ลมที่พัดแรงก่อนฝนตก จะทำให้เชื้อไวรัสที่อยู่ตามพื้นดินฟุ้งกระจาย รวมทั้งอากาศที่เย็นลงทำให้เชื้อไวรัสอยู่ได้นานขึ้น
          ช่วงหน้าฝน ป้องกันโรคหวัดได้ด้วยการใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกและปาก เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย เมื่อถูกละอองฝน สามารถลดการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสได้ โดยใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือมือปิดบนบริเวณโพรงจมูกส่วนบนเพื่อเพิ่มอุณหภูมิ ซึ่งจะทำให้เชื้อไวรัสหวัดเจริญเติบโตได้ยากขึ้น
          ช่วงหน้าหนาว มักเป็นหวัดง่ายขึ้น ยิ่งอากาศเปลี่ยนแปลง เช้าร้อน บ่ายฝน กลางคืนเย็น ร่างกายต้องปรับระบบสมดุลภายใน ภูมิต้านทานลดต่ำลง อากาศที่แห้งในช่วงหน้าหนาวทำให้เซลล์เยื่อบุโพรงจมูก คอ หลอดลม แห้งลงกว่าเดิม ทำให้ไม่มีน้ำมูกมาป้องกันเซลล์จากเชื้อโรค เชื้อเลยสัมผัสกับเซลล์โดยตรง ยิ่งอากาศที่เย็นเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสหวัด
          ขณะที่ประสิทธิภาพในการทำงานของเม็ดเลือด ที่ดักจับเชื้อโรคแปลกปลอมในร่างกายลดลง เราจึงมักเป็นหวัด ภูมิแพ้ และโรคต่างๆ ที่เกิดจากทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น สังเกตง่ายๆ ว่าช่วงหน้าหนาวผิวจะแห้ง มีน้ำมูกแห้งติดอยู่ในโพรงจมูกมากกว่าช่วงอื่นๆ
          โดยเมื่อเริ่มเป็นหวัด ไม่ควรรับประทานยาแก้ไข้ทันที เพราะจะขัดขวางการทำงานของระบบภูมิต้านทานในร่างกาย การป้องกันด้วย
          วิธีง่ายๆ คือ รับประทานอาหารที่มีเครื่องเทศ เช่น ต้มยำไก่ร้อนๆ เพราะสมุนไพรสดในต้มยำ มีฤทธิ์ต้านอาการหวัดได้ดี ส่วนเนื้อไก่ยังมีสารซีสเทอีน ช่วยลดอาการไอ และคัดจมูกลงได้
          ควรรับประทานผัก, ผลไม้, ถั่วที่มีวิตามินเอ, ซี, อี นอนหลับพักผ่อน ทำร่างกายให้อบอุ่น หลีกเลี่ยงความเครียด ดื่มน้ำอุ่นๆ ช่วยลดเสมหะ เจ็บคอ และช่วยให้หายใจได้โล่งขึ้น
          หากจมูกไม่โล่ง ควรสูดไอน้ำร้อน นอนหมอนสูง ช่วยให้หายใจได้โล่งขึ้น ออกกำลังกายเบาๆ เช่น โยคะ หรือเดิน หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีคนมาก และห้องแอร์ ที่เสี่ยงจะได้รับเชื้อโรคอื่นเพิ่ม กลั้วคอด้วยน้ำเกลือบ่อยๆ ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และไม่ควรสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
 pageview  1205244    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved