Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 05/06/2556 ]
วิจัยชี้น้ำพริกตาแดงมีสารต้านมะเร็งลดก่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

นายเอกราช เกตวัลห์ นักวิชาการประจำสถาบันโภชนาการ ม.มหิดล กล่าวว่า มีการวิจัย น้ำพริกตาแดง ซึ่งเป็นน้ำพริกที่นิยมรับประทาน พบว่า เป็นอาหารที่ ใช้เครื่องเทศและสมุนไพรสดหลายชนิด เป็นส่วนประกอบ จากงานวิจัยที่ผ่านมา พบว่า เครื่องเทศที่เป็นส่วนประกอบของน้ำพริกตาแดงหลายชนิดมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งการรับประทานในกลุ่มที่ต้านอนุมูลอิสระถือว่ามีประโยชน์ช่วยต้านสารก่อมะเร็งได้ด้วย
          นายเอกราชกล่าวว่า ในการวิจัยได้ใช้น้ำพริกตาแดงตำรับสุขภาพสูตรของสถาบันโภชนาการ ม.มหิดล ซึ่งมีปริมาณโซเดียมต่ำ ศึกษาปริมาณสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ และทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในหลอดทดลอง โดยใช้ 3 วิธีทดสอบทางวิทยาศาสตร์ พบว่า น้ำพริกตาแดงตำรับสุขภาพมีสารเบต้าแคโรทีน และลูทีนสูง และต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพดี ในทั้ง 3 วิธีทดสอบ
          จากนั้น นำน้ำพริกตาแดงมาทำให้แห้ง (freeze dry ) แล้วนำไปทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านออกซิเดทีฟสเตรส และฤทธิ์ต้านการอักเสบในร่างกายของหนูทดลอง ที่ได้รับการเหนี่ยวนำด้วยควันบุหรี่
          นายเอกราชกล่าวว่า ผลการศึกษาพบว่า หนูกลุ่มที่ได้รับควันบุหรี่และได้รับอาหารผสมน้ำพริกตาแดง 1 หน่วย และ 2 หน่วย เป็นเวลา 2 เดือน สามารถต้านสารอนุมูลอิสระ และการเกิดออกซิเดชั่นของไขมันได้ดีกว่ากลุ่มที่ได้รับควันบุหรี่อย่างเดียว อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในขณะที่เอนไซม์ที่ทำหน้าที่ต้านสารอนุมูลอิสระในร่างกาย มีค่าเพิ่มขึ้น เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับควันบุหรี่อย่างเดียว และกลุ่มควบคุม
          ผลการวิจัยสรุปได้ว่า น้ำพริกตาแดงประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ที่ต้านอนุมูลอิสระทั้งในหลอดทดลอง และในร่างกายของหนู และสามารถลดการอักเสบจากการได้รับควันบุหรี่อีกด้วย การบริโภคน้ำพริกตาแดงทุกวัน น่าจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระได้

 pageview  1205161    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved