นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ความผิดปกติที่มักเกิดขึ้นกับหลอดเลือดแดงใหญ่ คือ การขยายตัวหรือโป่งพองของหลอดเลือดจนกลายเป็นถุงขังเลือดไว้ และเมื่อหลอดเลือดมีสภาวะโป่งพองมากขึ้น จะมีความเสี่ยงที่หลอดเลือดจะแตกออก ที่เรียกว่า เส้นเลือดแดงโป่งพองแตกเซาะ ถือเป็นภาวะที่ต้องรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะมีโอกาสทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ รวมถึงในบางครั้งอาจได้รับการวินิจฉัยผิดว่าเป็นโรคอื่น ทำให้ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ทั้งนี้ เส้นเลือดแดงใหญ่แตกเซาะ เกิดจากการปริแตกของเส้นเลือดหรือภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น ภาวะกดเบียดของน้ำหรือเลือดในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ ภาวะที่อวัยวะต่างๆขาดเลือดไปเลี้ยง ซึ่งเป็นผลจากการแตกเซาะการฉีกขาดของผนังด้านในของเส้นเลือดแดงใหญ่บางส่วน ทำให้เลือดไหลเซาะเข้าไปในผนังของเส้นเลือด ภาวะเส้นเลือดแดงใหญ่แตกเซาะพบในผู้ป่วยที่มีอายุเฉลี่ย 50-60 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันพบในกลุ่มผู้ป่วยมีอายุน้อยลง โดยมีปัจจัยเสี่ยง คือ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน สูบบุหรี่ น้ำหนักเกิน และพันธุกรรม
พญ.วิพรรณ สังคหะพงศ์ ผอ.สถาบันโรคทรวงอก กล่าวว่า สำหรับอาการของผู้ป่วยจะเจ็บแน่นหน้าอกอย่างรุนแรงทันที เหนื่อย หายใจไม่ทัน บางรายอาจมีอาการปวดหลังหรือปวดท้องขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเส้นเลือดที่มีการแตกเซาะ นอกจากนี้ อาจหมดสติหรือมีภาวะเส้นเลือดหัวใจขาดเลือด สำหรับการรักษาควรได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วโดยการผ่าตัด ไม่อย่างนั้นผู้ป่วยอาจได้รับอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต. |