Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 17/11/2560 ]
หนาวนี้หวัดใหญ่แรงป่วยแล้ว1.7แสนราย

 อธิบดีกรมควบคุมโรคเตือนหนาวนี้ระวังไข้หวัดใหญ่ พบป่วยแล้ว 175,777 ราย เสียชีวิต 50 ราย
          เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมของโรคไข้หวัดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่ามีรายงานผู้ป่วยลดลง แต่ด้วยสภาพอากาศหนาวในขณะนี้ทำให้หลายประเทศยังคงมีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ส่วนประเทศไทย ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 จนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560  พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว 175,777 ราย เสียชีวิต 50 ราย พบมากในกลุ่มเด็กอายุ 15-24 ปี โดยพบมากที่สุดในพื้นที่กรุงเทพฯ
          นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า หากเทียบกับตัวเลขปัจจุบันถือว่าผู้ป่วยเริ่มลดลงจากช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้จะมีการรวมตัวกันมาก ทั้งงานลอยกระทง เทศกาลออกพรรษา รวมทั้งสภาพอากาศจากช่วงปลายฝนทำให้พบโรคเป็นกลุ่มก้อน แม้ขณะนี้ตัวเลขผู้ป่วยจะไม่เพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องระวัง เพราะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว จะทำให้แนวโน้มเพิ่มขึ้นได้อีก ซึ่งปกติประเทศไทยจะมีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2 ระลอก คือฤดูฝนและฤดูหนาว ดังนั้น เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวย่อมทำให้แนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้น อย่างปี 2559 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ช่วงหน้าหนาว 50,000 คน และปีนี้คาดว่าจะมากขึ้น สิ่งสำคัญคือการอยู่กันเป็นกลุ่ม หรือการไปท่องเที่ยวหน้าหนาวที่มีคนจำนวนมาก จะต้องดูแลสุขภาพให้ดีด้วย หรือหากใครเริ่มป่วยก็ต้องมีความรับผิดชอบสวมใส่หน้ากากอนามัย
          อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า จากรายงานของสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่พบว่า สถานที่ที่พบมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ โรงเรียน พบประมาณ 21 ครั้ง 2.เรือนจำ พบ 20 ครั้ง และ 3.ค่ายทหาร พบ 11 ครั้ง เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีการรวมตัวของคนหมู่มาก ประกอบกับการเข้าสู่ฤดูการระบาดรอบที่สองของปี คือช่วงฤดูหนาว สถานที่ดังกล่าวก็ยังคงมีรายงานอยู่ แต่ได้เข้าไปตรวจเฝ้าระวังควบคุมโรคได้แล้ว จึงไม่ต้องกังวล ขอเพียงให้ทุกคนดูแลสุขภาพตัวเองและครอบครัว รวมทั้งเจ้าของพื้นที่สาธารณะ หรือสถานที่ต่างๆ หากมีการเฝ้าระวังโรค มีสุขอนามัยที่ดีในพื้นที่ รักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยลดการเกิดโรคได้
          ผู้สื่อข่าวถามว่า โรคมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า ไม่พบ พบเพียงว่าเดิมจะพบป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ก็จะพบสายพันธุ์ B เพิ่มขึ้น แต่ไม่มีนัยยะว่าความรุนแรงเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด อีกทั้งการรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ก็จะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ แม้จะไม่สามารถป้องกันได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์
          "สิ่งที่อยากย้ำคือ เราต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ซึ่งโรคไข้หวัดใหญ่สามารถหายได้เอง ประมาณ 2-4 วัน อาการจะเริ่มดีขึ้น แต่หากอาการไม่ดีขึ้นใน 48 ชั่วโมง หรือมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม หายใจหอบ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาต่อไป เพราะโรคนี้สามารถเสียชีวิตได้ หากไปรับการรักษาไม่ทันท่วงที ซึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตปีนี้ 50 คน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรักษาไม่ทัน" นพ.สุวรรณชัยกล่าว
          นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า ขอย้ำการดูแลและลดการติดเชื้อยังคงใช้มาตรการ ปิด-ล้าง-เลี่ยงหยุด คือ ปิดหน้ากากอนามัยเมื่อป่วย อย่าจามรดเปิดเผย เพราะโรคไข้หวัดใหญ่ติดได้จากสารคัดหลั่ง หมั่นล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ เลี่ยงการอยู่ในสถานที่มีคนชุมนุมมากๆ และเมื่อป่วยควรหยุดเรียน ซึ่งที่ผ่านมามีโรงเรียนหยุดเรียนชั่วคราวเพราะพบนักเรียนป่วย ช่วยป้องกันการติดเชื้อเพิ่มได้
          นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่จะระบาด 2 ช่วง คือ หน้าฝน และหน้าหนาว โดยหน้าฝนประมาณเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน และอาจเลยมาถึงตุลาคมได้ ส่วนหน้าหนาว จะพบช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ปีนี้แม้จะพบผู้ป่วยมากขึ้น แต่ไม่ถึงขั้นระบาด เนื่องจากตัวเลข ณ ขณะนี้ยังไม่ถึงกับที่มีการพยากรณ์โรคไว้ที่ 300,000 ราย แต่กรมยังเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวจะพบโรคได้มากขึ้น
          ผู้สื่อข่าวถามว่าการฉีดวัคซีนป้องกันจะช่วยได้หรือไม่ นพ.ธนรักษ์กล่าวว่า ช่วยป้องกันโรคได้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ แต่จะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคเปรียบเทียบตัวเลขผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ ปี 2559 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 ตุลาคม 2559 พบป่วย 145,711 ราย เสียชีวิต 44 ราย ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันปี 2560 พบป่วยแล้ว 173,227 ราย เสียชีวิต 50 ราย
          ด้าน นพ.เมธิพจน์ ชาตะเมธีกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับรายงานว่ามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น อยู่ระหว่างประมวลผลตัวเลขที่แน่ชัด ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน เนื่องจากทยอยเปิดภาคเรียน ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้เด็กนักเรียนติดเชื้อและป่วยเป็นไข้หวัดเพิ่มขึ้น ประกอบกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง กทม.มีอากาศเย็นขึ้น ทำให้เป็นไข้หวัดได้ง่าย ต่อมาพบเป็นกลุ่มประชาชนทั่วไป มีลักษณะกระจายเป็นกลุ่มก้อน อาทิ สถานที่ทำงาน
          นพ.เมธิพจน์กล่าวว่า ในช่วงแรกเปิดภาคเรียน กทม. ทางสำนักอนามัย ได้แจ้งทุกโรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้เฝ้าระวังเด็กนักเรียนเสี่ยงติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ เพื่อคัดกรองเด็ก จำกัดโอกาสแพร่เชื้ออย่างเข้มงวด หากพบมีนักเรียนป่วยให้หยุดเรียนจนกว่าจะหายดี ตลอดจนแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ "ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด" แม้เพียงเริ่มมีอาการไอเล็กน้อย หรือจาม ให้สวมหน้ากากอนามัยทันที
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ใน กทม. ตั้งแต่เดือนมกราคม 2560-ปัจจุบัน พบผู้ป่วยติดไข้หวัดใหญ่จำนวน 47,516 ราย โดยช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม มีผู้ป่วยเฉลี่ยเดือนละ 1,000 คน ส่วนเดือนมิถุยายนกรกฎาคม มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเฉลี่ยมากกว่าเดือนละ 3,000 ราย และพบผู้ป่วยสูงสุดในเดือนสิงหาคม 12,850 ราย และเดือนกรกฎาคม 10,894 ราย ตามลำดับ ในเดือนพฤศจิกายนได้รับรายงานมีผู้ป่วย 710 ราย

 pageview  1204381    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved