เมื่อวันที่ 19 ต.ค. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเปิดเผยว่า โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกิดจากความบกพร่องของตับอ่อนและฮอร์โมนอินซูลินในร่างกาย ทำให้ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืน หิวบ่อย กระหายน้ำบ่อย ชาปลายมือปลายเท้า แผลหายช้าส่วนภาวะแทรกซ้อนจะทำให้จอประสาทตาเสื่อม เกิดแผลกดทับ ติดเชื้อง่ายดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานต้องระมัดระวังตัวมาก โดยเฉพาะการรับประทานอาหารทั้งนี้ในทางการแพทย์แผนไทยมีพืชผักสมุนไพรใกล้ตัวหลายชนิดที่ใช้เป็นอาหารมีรายงานการวิจัยพบว่าช่วยลดระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน เช่น กะเพรา ตำลึง มะระขี้นก ผักเชียงดา
สำหรับกะเพรานั้นในขณะที่ทางการแพทย์อายุรเวทของอินเดียถือว่ากะเพราเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ มีสรรพคุณหลากหลายในการแพทย์อายุรเวท เช่น บรรเทาอาการไอหวัด และการติดเชื้อทางเดินหายใจ ช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อช่วยลดอาการ
ที่เกิดจากความเครียด เพิ่มความจำ เพิ่มภูมิคุ้มกัน และมีงานวิจัยของอินเดียชี้ให้เห็นว่าการ รับประทานผงใบกะเพราแห้งในปริมาณ 2.5-3 กรัม วันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้หรือให้รับประทานในปริมาณ 6 กรัม วันละ 2 ครั้ง ก่อนและหลังอาหารเช้า ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดสูงและลดไขมันในเลือดสูงได้
ส่วนสารสกัดด้วยน้ำของใบกะเพราขนาด 5 มิลลิลิตร (มล.) ดื่มวันละ 2 ครั้งก่อนอาหาร สามารถลดน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในผู้ป่วยอ้วนลงพุง และยังพบว่าประมาณ 63 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยเบาหวานที่ดื่มน้ำต้มกะเพราวันละ 700 มล.โดยต้มต้นกะเพราแห้ง 20 กรัม ในน้ำ 1 ลิตรกรองดื่ม ตอบสนองต่อฤทธิ์ลดน้ำตาลได้ดี นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยทางเคมีพบว่าสารสำคัญที่มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในกะเพราเป็นสารกลุ่มไทรเทอร์พีนอยด์ ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานหรือกลุ่มเสี่ยงเป็นเบาหวานสามารถนำใบกะเพรามาใช้เป็นอาหารในวิถีชีวิตประจำวันได้แต่ในกรณีผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ก่อน เพื่อจะได้ทราบปริมาณที่พอเหมาะหรือปรับลดปริมาณยาแผนปัจจุบันให้เหมาะกับผู้ป่วย ป้องกันภาวะช็อกจากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ 0-2591-7007 ต่อกองวิชาการและแผนงานกรมการแพทย์แผนไทยฯ หรือศึกษาข้อมูลในแอพพลิเคชั่นสมุนไพรไทย "Thai Herbs" ได้. |