Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 21/07/2560 ]
รณรงค์ป้องกันตับอักเสบหวังป่วย50%ได้รักษาเปิด104รพ.ตรวจหาฟรี

สธ.รณรงค์วันตับอักเสบโลก "ตรวจเร็ว รักษาได้ ห่างไกลมะเร็งตับ" ตั้งเป้าลดคนไทยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี เข้าถึงการรักษาให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปี 2564 พร้อมเชิญชวนประชาชนรับการตรวจคัดกรองโรค 31 ก.ค.-4 ส.ค.2560 รพ.สังกัด สธ.ที่เข้าร่วมโครงการ 104 แห่งทั่วประเทศ
          ที่สถาบันบำราศนราดูร กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับองค์การอนามัยโลก และสมาคมโรคตับแห่งประเทศไทย แถลงข่าวสัปดาห์รณรงค์ตับอักเสบโลก โดยมี นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย Dr.Mukta Sharma ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเอดส์ วัณโรค และโรคไวรัสตับอักเสบ องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และ รศ.พญ.วัฒนา สุขีไพศาลเจริญ นายกสมาคมโรคตับแห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าว ภายใต้คำขวัญ "ตรวจเร็ว รักษาได้ ห่างไกลมะเร็งตับ"
          นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า สธ.ให้ความสำคัญกับโรคไวรัสตับอักเสบ เนื่องจากเป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับแข็งและมะเร็งตับ ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับต้นๆ ในคนไทย โดยทั่วไปไวรัสตับอักเสบมี 5 ชนิด ได้แก่ ชนิดเอ บี ซี ดี และอี แต่โรคไวรัสตับอักเสบที่เป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญในไทยและประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบบีและซี เห็นได้จากผลการสำรวจขององค์การอนามัยโลกที่พบว่ามีประชากรกว่า 325 ล้านคนทั่วโลกติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซี และมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบดังกล่าวถึง 1.34 ล้านรายต่อปี ส่วนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก สำหรับประเทศไทยคาดว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังประมาณ 2.2-3 ล้านคน ผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังประมาณ 3-7 แสนราย สธ.มีเป้าที่จะให้ผู้ป่วยตับอักเสบสามารถเข้าถึงการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 50 ภายในปี 2564 โดยประชาชนสามารถขอรับการตรวจคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบบีและซีได้ฟรี ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม-4 สิงหาคม 2560 ณ โรงพยาบาลในสังกัดของ สธ.ที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 104 แห่ง ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
          Dr.Mukta Sharma กล่าวว่า โรคไวรัสตับอักเสบเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับ 7 ของโลก และเป็นโรคติดต่อเพียงหนึ่งเดียวที่อัตราการเสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งเทียบเท่ากับจำนวนผู้เสียชีวิตจากวัณโรค เอดส์ และมาลาเรียรวมกันหรือมากกว่า ซึ่งหลังจากที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลก เมื่อปี 2553 และปี 2557 เรียกร้องให้มีการพัฒนายุทธศาสตร์ระดับโลกในการรับมือกับโรคไวรัสตับอักเสบ ในปี 2559 ได้มีการประกาศยุทธศาสตร์สุขภาพระดับโลกปี 2559-2564 เพื่อกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ ซึ่งเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ให้หมดไปภายในปี 2573 ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกได้ร่วมมือกับประเทศสมาชิกดำเนินการใน 5 ด้านสำคัญ คือ 1.ข้อมูลเพื่อการจัดการที่ตรงจุด 2.มาตรการที่ได้ผล 3.บริการที่เสมอภาค 4.งบประมาณเพื่อความยั่งยืน และ 5.นวัต กรรมเพื่อเร่งขยายผล
          ด้าน รศ.พญ.วัฒนากล่าวว่า จากประมาณการพบการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี พบ 1 คนในทุกๆ 12 คน ในประเทศไทยพบความชุกการติดเชื้อไวรัสตับบี 5-8% ไวรัสตับอักเสบซี 1-2% โดยพบว่ามีอัตราการติดเชื้อจากโรคตับอักเสบสูงกว่าโรคติดเชื้อชนิดอื่นที่อันตราย เช่น โรคเอดส์ หรือโรคมะเร็งบางชนิด ซึ่งประชาชนให้ความสนใจในการป้องกันและรักษาโรคไวรัสตับอักเสบน้อยมาก โดยส่วนใหญ่ยังคิดว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว ดังนั้นจึงขอเชิญชวนประชาชนที่สงสัยว่าจะมีเชื้อไวรัสตับอักเสบมาคัดกรองโรค โดยเฉพาะ 1.ผู้ที่เกิดก่อนปี 2535 2.ผู้ที่เคยใช้สารเสพติดด้วยวิธีฉีด 3.ผู้ติดเชื้อเอชไอวี 4.ผู้ที่เคยได้รับ เลือดหรือสารเลือด 5.ผู้ที่เคยได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ 6.ผู้ที่เคย ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม 7.ผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยาง อนามัย 8.ผู้ที่มีคนในครอบครัว ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบบีหรือซี 9.ผู้ที่เคยสักผิวหนัง เจาะหู ฝังเข็ม ในที่ที่ไม่ใช่สถานพยาบาล.

 pageview  1205134    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved