หนาวนี้มิใช่เจอแค่ปัญหาหน้าแห้งตึงผิวหนังเป็นขุยอย่างเดียว ดวงตาที่โดนแดดต้องลมบ่อยๆ ก็ไม่รอดจักษุแพทย์ออกโรงเตือนว่า หน้าหนาวนี้ระวังอาการตาแห้งไว้บ้าง แม้จะไม่อันตรางถึงชีวิตแต่ก็สร้างความรำคาญใช่เล่น

          นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ รพ.พระนั่งเกล้า เตือนว่า ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวให้ระวังอาการตาแห้ง เพราะมีผู้ป่วยเข้ามารักษาอาการตาแห้งเป็นจำนวนมาก ตาแห้งเกิดจากสภาพแวดล้อมที่แห้ง

          อาการที่ปรากฎจะปวดแสบปวดร้อยบริเวณดวงตา ตาแดง น้ำตาไหล กะพริบตาบ่อย และตาฝ้าฟาง โดยกลุ่มผู้สูงอายุคนที่ใส่คอนเทคเลนส์ เด็กและผู้ที่ทำงานกลางแจ้งจะตาแห้งง่ายมาก

          ผู้ป่วยที่มาพบหมอจะมีอาการมองแดดแล้วรู้สึกแสบตาจนวิตกกังวล บางรายวิตกจริตร่วมด้วย เพราะกลัวว่าจะลุกลามส่งผลให้ดวงตาเป็นอันตราย ซึ่งจริงๆ แล้ว ผู้ป่วยสังเกตอาการตาแห้งได้เอง ดวงตาจะไม่แวว กะพริบตาอยู่ตลอดเวลา

          การแก้ปัญหาตาแห้งให้ใช้วิธีประคบเย็นบริเวณดวงตา ทำได้โดยนำผ้าไปแช่ในตู้เย็นหรือชุบน้ำเย็นมาวางทาบโดยไม่ต้องกด ขยี้ คลึง การวางผ้าให้วางตั้งแต่ขมับซ้ายมาขมับขวาทับหน้าผาก ตาและจมูก เมื่อผ้าเริ่มแห้งให้ชุบน้ำเย็นต่อทำติดต่อกันประมาณ 20 นาที ทำวันละ 2 ครั้ง อาการตาแห้งจะดีขึ้น

          แต่ถ้าประคบเย็นแล้วยังไม่หาย ต้องรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อป้องกันอาการรุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อน ถ้าตาแห้งแบบนี้ ส่วนใหญ่จักษุแพทย์มักจะให้น้ำตาเทียมหรือยาหยอดตาในการรักษา

          คุณหมอบอกว่า ไม่ต้องกลัวไป เพราะอาการแบบนี้ไม่ได้ร้ายแรงต่อดวงตามากนักเพียงแต่จะสร้างความรำคาญแค่นั้นเอง

          เลี่ยงแดด-ลม ปกป้องดวงตา

          วิธีดูแลไม่ไห้ดวงตาแห้งช่วงหน้าหนาวทำได้โดยหลีกเลี่ยงการออกแดด สวมแว่นกันแดด หรือหมวกเวลาออกแดดทุกครั้ง ดื่มน้ำเพื่อให้ตาชุ่มฉ่ำและเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำเวลาอยู่นอกบ้าน ควรทานอาหารที่มีวิตามินเอสูง เช่น ผักสีเขียว ผักบุ้ง มะละกอ แครอท เนื่องจากในกลุ่มเด็กตาแห้งอาจเกิดจากการไม่ได้รับประทานผักและผลไม้

          ทำได้ตาม 4 วิธีข้างต้นนี้ มั่นใจว่าดวงตาคู่นี้จะได้รับการปกป้องที่ดีในระดับหนึ่ง จะออกเที่ยวที่ไหนก็ท้าแดดท้าลมได้แล้ว