เมื่อวันที่ 31 มกราคม นพ.มงคล ณ สงขลาอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)กล่าวถึงกระแสข่าวเตรียมเสนอแก้ไขมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 กรณีการจ่ายเงินชดเชยความเสียหายจากการบริการสาธารณสุข โดยจะให้ขยายสิทธิครอบคลุมไปถึงระบบประกันสังคม และระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ จากปัจจุบันคุ้มครองเพียงผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง ซึ่งจะมีการเสนอในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ดสปสช.) ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ ว่า ขณะนี้การยกร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ.... ยังไม่แล้วเสร็จ หากจะมีการเสนอให้ปรับปรุงมาตรา 41 โดยขยายครอบคลุมทุกคนทุกระบบสุขภาพของไทย ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเรื่องการจัดสรรงบประมาณสำหรับกองทุน เนื่องจากปัจจุบันมาตรานี้คุ้มครองเพียงผู้ป่วยในระบบบัตรทอง ใช้เงินส่วนหนึ่งของเหมาจ่ายรายหัว แต่หากรวมทุกระบบจำเป็นต้องนำเงินจากระบบอื่นๆ เข้ามาด้วย
"หากจะปรับแก้มาตรา 41 ต้องคิดรอบด้าน ให้เกิดความเท่าเทียม ซึ่งในส่วนของการปรับเพิ่มเพดานการจ่ายเงินชดเชย จากปัจจุบันเสียชีวิต 2 แสนบาท พิการ 120,000 บาท ตรงนี้ก็ต้องมีการหารือถึงเพดานที่เหมาะสมด้วย แต่ทางที่ดีที่สุดก็ควรผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหาย เพราะจะเป็นกฎหมายโดยตรง และมีคณะกรรมการกลั่นกรองในเรื่องนี้ จะทำให้การทำงานรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย" นพ.มงคลกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีการเรียกร้องให้แก้ไขมาตรา 41 โดยปรับเพิ่มเพดานค่าชดเชย พร้อมทั้งให้กำหนดชัดเจนห้ามมีการฟ้องร้องต่อ นพ.มงคลกล่าวว่า ในทางคดีอาญา การตัดสิทธิเช่นนี้ไม่สามารถกระทำได้ เว้นแต่มีการเจรจากันลงตัว การฟ้องร้องก็ไม่เกิดขึ้น
ด้าน ศ.คลินิก นพ.อำนาจ กุสลานันท์ นายกแพทยสภา กล่าวว่า แพทยสภาได้ยกร่างแก้ไขพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มาตรา 41 และ42 พร้อมทั้งยกร่างข้อบังคับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่าด้วยการช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาล พ.ศ.... โดยได้เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพิจารณา เพื่อเป็นอีกทางเลือกของร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายฯโดยสาระสำคัญของมาตรา 41 คือ ให้กองทุนจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้รับบริการในระบบบัตรทองประกันสังคม และสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ส่วนมาตรา 42 ในกรณีที่ได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาลของหน่วยบริการและได้ตกลงรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ ให้สิทธิการฟ้องร้องต่อศาลเป็นอันระงับไป ส่วนการยกร่างข้อบังคับให้เพิ่มเพดานค่าชดเชย จากเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรจ่ายเพียง2 แสนบาท เพิ่มเป็นไม่เกิน 2 ล้านบาท ส่วนพิการจ่ายเงินช่วยเหลือไม่เกิน 1.2 แสนบาท เพิ่มเป็นไม่เกิน 5 แสนบาท
