ความรักในโลกยุคดิจิตอล
 |
เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่อบอวลไปด้วยการแสดงออกซึ่งความรัก และใน “เดือนแห่งรัก” นี้ก็อาจจะมีทั้งผู้ที่สมหวังและไม่สมหวังในความรัก ซึ่งบางคนอาจจะสงสัยว่า “รักแท้นั้นมีอยู่จริงหรือไม่” และใครเล่าคือ คู่รักคู่แรกของโลก
จากร่องรอยทางประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า “พลังแห่งรัก” อยู่คู่โลกมานานเกือบ 6 พันปี ตั้งแต่สมัยที่เรียกว่ายุคหินใหม่ โดยคู่รักรุ่นแรกของโลกนี้ถูกค้นพบในแหล่งโบราณคดีที่ตั้งอยู่ในเขตชานเมือง “มานตูวา” ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี
กระดูกหนุ่มสาวจากแหล่งโบราณคดีชานเมือง Mantua
ภายใต้สุสานแห่งนี้นักโบราณคดีกล่าวว่า นี่คือ โครงกระดูกที่แสดงข้อมูลเชิงอารมณ์ของมนุษย์ในยุคดึกดำบรรพ์ ด้วยโครงกระดูกชายหญิงที่วางตัวอยู่ในอากัปกิริยาที่แสดงให้เห็นการสวมกอดซึ่งกันและกันอย่างแนบแน่นทั้งด้วยช่วงแขนและช่วงขาที่คู้เข้าหากัน ที่สำคัญคือ ส่วนกะโหลกศรีษะของคนทั้งสองนั้นหันเข้าหากันจนแทบจะแนบชิด นี่จึงเป็นประจักษ์พยานที่แสดงให้เห็นถึงความรักของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่มีมาตั้งแต่ในอดีต ทีนี้เราลองมาดูความรักของคนในยุคปัจจุบันกันบ้างว่าเขาแสดงออกกันอย่างไร
ภายใต้สุสานแห่งนี้นักโบราณคดีกล่าวว่า นี่คือ โครงกระดูกที่แสดงข้อมูลเชิงอารมณ์ของมนุษย์ในยุคดึกดำบรรพ์ ด้วยโครงกระดูกชายหญิงที่วางตัวอยู่ในอากัปกิริยาที่แสดงให้เห็นการสวมกอดซึ่งกันและกันอย่างแนบแน่นทั้งด้วยช่วงแขนและช่วงขาที่คู้เข้าหากัน ที่สำคัญคือ ส่วนกะโหลกศรีษะของคนทั้งสองนั้นหันเข้าหากันจนแทบจะแนบชิด นี่จึงเป็นประจักษ์พยานที่แสดงให้เห็นถึงความรักของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่มีมาตั้งแต่ในอดีต ทีนี้เราลองมาดูความรักของคนในยุคปัจจุบันกันบ้างว่าเขาแสดงออกกันอย่างไร
ในโลกปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีอิทธิพลกับมนุษย์อย่างไร้ขีดจำกัด เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส เราก็จะได้ในสิ่งที่เราต้องการอย่างรวดเร็วและง่ายได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องของความรัก
สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ได้ทำการสำรวจเรื่อง “รู้ใจวัยรุ่นไทยสื่อรักวาเลนไทน์ 2010” พบว่า ในวัยรุ่นชายและหญิง จำนวน 1,320 คน ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น-มหาวิทยาลัย จาก 10 สถาบัน จากการสอบถามเรื่องสื่อที่ใช้ในวันวาเลนไทน์ พบว่า วิธีการอันดับหนึ่งที่เป็นที่นิยมคือ การส่งข้อความสั้น(SMS) ร้อยละ 61.8 รองลงมาคือ การบอกตรงๆ ร้อยละ 52.3 ไฮไฟท์ ร้อยละ 42 โปรแกรมเอ็มเอสเอ็ม ร้อยละ 37.7 อีเมล์ (Email) ร้อยละ 32 สังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค ร้อยละ 15.1 จดหมาย ไปรษณียบัตร ร้อยละ 9.6 เอ็มเอ็มเอส ร้อยละ 8.8 และการบอกรักผ่านวิทยุ ร้อยละ 3.9
|
| ช่องทางบอกรัก |
ร้อยละ |
| SMS |
61.8 |
| face to face |
52.3 |
| Hi5 |
42.0 |
| MSN |
37.7 |
| Email |
32.0 |
| Facebook |
15.1 |
| letter |
9.60 |
| MMS |
8.80 |
| Radio |
3.90 |
|
ส่วน “วิธีการบอกเลิก” นั้น สำนักข่าว Reuters ได้ตีพิมพ์ผลการสำรวจของบริษัทจัดหาคู่ชื่อดังแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีผู้ตอบสอบถามกว่า 200 คน พบว่า ร้อยละ 38 เลือกที่จะ “บอกเลิกต่อหน้า” ร้อยละ 34 “บอกเลิกผ่าน Email” มีเพียงร้อยละ 2 ที่เลือกใช้ “โทรศัพท์” และที่น่าแปลกใจมากคือ มีจำนวนถึงร้อยละ 13 ที่บอกเลิกผ่าน “สื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook” นอกจากนั้นมีเพียงร้อยละ 6 ตอบว่าบอกเลิกผ่านทาง “Twitter” และร้อยละ 2 บอกว่าพวกเขาเลือก “sms” เป็นช่องทางในการบอกเลิก (Reuters, Feb 23rd 2010)
สำหรับในประเทศไทยบริษัทจัดหาคู่ชั้นนำได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของคนโสดกว่า 800 คนในกรุงเทพฯ แบ่งเป็นเพศหญิงร้อยละ 70 (อายุระหว่าง 25-50 ปี) เพศชายร้อยละ 20 (อายุระหว่าง 30-55 ปี) พบว่าประมาณร้อยละ 50 ของทั้งหญิงและชายเลือกที่จะใช้ “โทรศัพท์” เป็นช่องทางในการบอกเลิก รองลงมาคือ “บอกเลิกเมื่อพบหน้ากัน” อยู่ที่ประมาณร้อยละ 15 และ “บอกผ่านSMS” อยู่ประมาณร้อยละ 13 โดยจำนวนน้อยที่สุดประมาณ ร้อยละ 5 ตอบว่าบอกผ่าน Email และส่วนที่เหลือบอกว่า “ไม่แน่ใจ” |
| ช่องทางบอกเลิกในประเทศไทย |
ช่องทางบอกเลิกในประเทศอังกฤษ |
| ร้อยละ |
| Phone | 50 |
| Face to Face | 15 |
| Text message | 13 |
| Email | 5 |
| Uncertain | 17 |
| |
| ร้อยละ |
| Phone | 38 |
| Face to Face | 34 |
| Text message | 13 |
| Email | 8 |
| Uncertain | 6 |
|
|
|
สาเหตุที่การบอกเลิกทางโทรศัพท์เป็นที่นิยมกันมาก ทั้งนี้เป็นเพราะโทรศัพท์เป็นวิธีที่สามารถสื่อสารกันได้อย่างใกล้ชิด แต่ในขณะเดียวกันก็ยังห่างพ่อที่จะซ้อนความรู้สึก หรือการแสดงออกทางสีหน้าที่ต้องการให้อีกฝ่ายเห็นได้ ในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย และสามารถขอปลีกตัวออกจากบทสนทนาได้ง่ายกว่าการพบหน้ากัน ส่วนการบอกเลิกผ่าน SMS หรือ Email สามารถทำได้อย่างเหมาะสมในบางกรณี เช่น กับคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน เป็นต้น
เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีมีประโยชน์มากมาย และช่วยเชื่อมโยงผู้คนให้เข้าถึงกันได้สะดวกมากขึ้นแม้กระทั่งในเรื่องของความรัก แต่อย่าลืมว่าความรักที่ยั่งยืนนั้นต้องการการสนใจและความใส่ใจมากกว่าคำพูดเพราะความรักจะก่อตัวมาจากความใกล้ชิดจนกลายมาเป็นความผูกพัน ดังนั้นอย่าปล่อยให้เทคโนโลยีมาครอบงำความรัก จนกลายเป็นการ “รักง่าย หน่ายเร็ว” กันอีกเลย
|
| เรียบเรียงโดย : |
สิริกร เค้าภูไทย สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ |
แหล่งที่มา : |
- World Health Organization. World Report on Road Traffic Injury Prevention, 2004. http://www.who.int/violence_injury_prevention/publications/road_traffic/world_report/en/index.html
- ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย. เข็มขัดช่วยชีวิตได้จริงหรือ. จำนวน 1 หน้า.อ้างใน http://www.tarc.ait.ac.th/download/article/seatbelt_th.pdf
| |
